รูปแบบของกริยา (Forms
of the Verbs)
ในการเรียนภาษาอังกฤษ
ผู้อ่านจำเป็นต้องรู้จัก Tenses (กาลเวลา)
ในภาษาอังกฤษให้อย่างถ่องแท้ ซึ่ง Tenses ในภาษาอังกฤษราสามารถแบ่งออกได้เป็นหัวหลัก
ๆ ดังนี้
1. กาลเวลาในปัจจุบัน
(Present
Tense)
2. กาลเวลาในอดีต
(Past
Tense)
3. กาลเวลาในอนาคต
(Future Tense)
ในแต่ละ Tense
เรายังสามารถแบ่งออกได้เป็น Tense ย่อย ๆ
ดังนี้
Present
Tense
- Present
Simple Tense
- Present
Continuous Tense (Present
Progressive Tense)
- Present
Perfect Tense
- Present
Perfect Continuous Tense (Present perfect Progressive Tense)
Past Tense
- Past
Simple Tense
- Past
Continuous Tense (Past Progressive Tense)
- Past
Perfect Tense
- Past
Perfect Continuous Tense (Past Perfect Progressive Tense)
Future Tense
- Future
Simple Tense
- Future
Continuous Tense (Future Progressive Tense)
- Future
Perfect Tense
- Future
Perfect Continuous Tense (Future Perfect Progressive Tense)
คำอธิบายของแต่ละ Tense
มีดังนี้ คือ
1. Present
Simple Tense เราจะใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เป็นจริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจำ
แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำนั้น
มักจะมีคำกริยาวิเศษณ์ที่บอกเวลาอยู่แสมอ เช่น every day, every
morning ซึ่งคำเหล่านี้จะเห็นในประโยคเสมอ
การที่เราจะใช้กริยาช่องที่ 1 กับ Present Simple นั้น
เราจะต้องสังเกตการใช้ verb ให้ดี คือ จะต้องใช้ verb
ให้สอดคล้องกับประธานด้วย
2. Past
Simple Tense เราจะใช้ Tense นี้ก็ต่อเมื่อเราต้องการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้วอดีต
ซึ่งใน Tense นี้ เราจะพบคำกริยาวิเศษณ์ หรือ adverb ที่บอกเวลาอยู่ในประโยค เพื่อที่เราจะได้ทราบเวลาที่เกิดในเหตุการณ์นั้น ๆ
เช่นคำว่า yesterday, two days ago
3. Perfect
Tense ผู้อ่านเคยสงสัยกันบ้างไหมว่า Perfect
Tense ใช้อย่างไร เพราะว่า Tense นี้จะใช้ใกล้เคียงกัน
คือ Present Perfect กับ Past Perfect ต่อไปนี้
เราทราบมาว่า 2 Tense นี้แตกต่างกันอย่างไร
o Present
Perfect Tense สำหรับ Tense นี้
เราจะใช้เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังมีผลต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
หรือคุณผู้อ่านอาจจะสังเกตได้จาก Adverb ที่มีอยู่ในประโยค
เช่น คำว่า “already” ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ได้ว่าประโยคนั้นคือ
Present Perfect
o Past
Perfect Tense คุณผู้อ่านสามารถใช้ Past
Perfect ได้ต่อเมื่อคุณผู้อ่านต้องการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2
เหตุการณ์ และเหตุการณ์นั้นเกิดใกล้เคียงกันแต่เราจะใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงก่อน
และในส่วนของ Past Perfect นั้นผู้อ่านจะต้องใช้ Verb
ช่อง 3 หรือ Verb + ed ซึ่งเราเรียกว่า
“Past Participle นี้ กริยาจะสามารถอยู่โดด ๆได้
ซึ่งเราจะต้องใช้กริยาช่วยควบคู่ไปด้วย คือ “Verb to have”
o Continuous
Tense ในส่วนของ Continuous Tense นี้ จะมีลักษณะการใช้ 2 ลักษณะเหมือนกับ Perfect
Tense คือ Present Continuous กับ Past
Continuous 2 Tense นี้จะใช้แตกต่างกัน คือ Present
Continuous เราจะใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่ผู้พูดกำลังพูดอยู่
ซึ่งในส่วนของ Tense นี้มักจะมีคำกล่าวว่า “now” อยู่ในประโยคแต่ในส่วนของ Past Continuous จะพูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในอดีต
ซึ่งมักจะระบุเวลาที่เกิดขึ้นอยู่ในประโยค เช่น at o’clock, last night เป็นต้น
สรุปโครงสร้าง
Tense
Tense
|
Simple
|
Continuous
|
Perfect
|
Perfect
Continuous
|
Present
|
V.1
|
Is +V.ing
Am +V.ing
Are +V.ing
|
Has +V.3
Have +V.3
|
Has been +V.ing
Have been +V.ing
|
Past
|
V.1
|
Was +V.ing
Were +V.ing
|
Had +V.3
|
Had been +V.ing
|
Future
|
Will +V.1
|
Will be +V.ing
|
Will have +V.3
|
Will have been +V.ing
|
Cr. หนังสือ สุดยอด Tense
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น